ศัตรูพืชที่เป็นอันตรายต่อชาวสวนและคอยกัดกินผลผลิตอย่างร้ายแรง ได้แก่ เพลี้ยแป้งและเพลี้ยหอย ซึ่งมักปรากฏตัวเป็นจำนวนมาก มีลักษณะกลม เล็ก ทั้งมีหางและไม่มีหาง คนที่ไม่ทราบอาจคิดว่าแมลงเหล่านี้ไม่มีพิษหรือไม่เกิดผลกระทบ แต่แท้จริงแล้วมีอันตรายต่อต้นพืช และสร้างความเสียหายอย่างยิ่ง พวกมันมักเกาะตามส่วนต่างๆ ของต้นไม้ ตั้งแต่ใบ กิ่งก้าน ลำต้น ไปจนถึงดอก พวกมันดูดกินน้ำเลี้ยงจากต้นไม้ โดยเฉพาะส่วนที่กำลังเจริญเติบโตใหม่ เช่น ยอดอ่อน ใบอ่อน หรือใต้ใบพืช ส่งผลให้ต้นไม้ขาดอาหาร ทรุดโทรม และการเจริญเติบโตต้องหยุดชะงักลง ดังนั้น การใช้สารกำจัดเพลี้ยแป้ง หรือ ที่เรียกว่า ยาฆ่าเพลี้ยแป้ง ทันทีหรือป้องกัน จึงเป็นสิ่งจำเป็นลดการเกิดผลกระทบต่อต้นพืชในระยะยาว บทความนี้จะอธิบายถึงลักษณะของเพลี้ยแป้งและเพลี้ยหอย รวมถึงวิธีการกำจัดพวกมันอย่างมีประสิทธิภาพ
โดยเพลี้ยแป้ง และ เพลี้ยหอยมีความแตกต่างกันอยู่ซึ่งเราจะมาจำแนกว่าเพลี้ยแป้งนั้นคืออะไรก่อนโดย เพลี้ยแป้ง เป็นแมลงประเภทปาดดูด เช่นเดียวกับเพลี้ยหอย แต่มีรูปร่างที่พิเศษเฉพาะตัว สังเกตได้ง่าย คือมีผงแป้ง หรือ เส้นใยละเอียดเหมือนปุยฝ้าย ปกคลุมลำตัวให้เห็นเป็นสีขาวเด่นชัด เพลี้ยแป้งก็มีหลายชนิดสามารถแยกได้ออกได้หลายสายพันธุ์ แต่หากเป็นเพลี้ยหอย เป็นแมลงประเภทปากดูดที่มีหลากหลาย และ เพลี้ยหอยที่ต่างชนิดกัน ก็จะมีรูปร่างแตกต่างกันอย่างมาก หลายชนิด มีขนาดเล็ก อาจชอบอาศัยอยู่ในซอกรอยแตกของเปลือกลำต้น ทำให้สังเกตได้ยากมาก ลักษณะทั่วไป มีเปลือกหุ้มลำตัว เพื่อเป็นเกราะป้องกันอันตราย คล้ายเพรียงในทะเลนั้นเอง ซึ่งส่วนใหญ่แล้ว เพลี้ยหอย และ เพลี้ยแป้งจะระบาดหนักในช่วงที่อากาศร้อน-ชื้น ซึ่งเราอาจเห็นเป็นราดำตามมา เพราะ น้ำหวานที่เพลี้ยแป้งผลิตออกมามากจะกลายเป็นรา ซึ่งจะลุกลามจนทำให้ต้นไม้ตายได้ ซึ่งมีวิธีกำจัดแมลงอย่าง ยาฆ่าเพลี้ยแป้ง และ เพลี้ยหอย เพื่อป้องกันการสร้างความเสียหายฉับพลันได้
หากเป็นเพลี้ยหอย และ เพลี้ยแป้งนั้นจะมีวงจรชีวิตที่เหมือนๆกัน คือ ตัวเมียจะวางไข่แล้วตัวอ่อน ฟักออกจากไข่ เจริญเติบโตไปเป็นตัวเต็มวัย ที่มีทั้ง ตัวผู้ และ ตัวเมีย เนื่องจากแมลงกลุ่มนี้ มีหลากหลายชนิด จึงมีทั้ง ประเภทที่ตัวเมียวางไข่ได้โดยไม่ต้องผสมพันธุ์ และ แบบที่ต้องผสมพันธุ์กับตัวผู้ เพลี้ยแป้งวางไข่ในถุงสำหรับวางไข่ เพื่อปกป้องไข่ แต่เพลี้ยหอยจะวางไข่ใต้เกราะที่กำบังตัว โดยตัวอ่อนที่ฟักออกจากไข่ระยะแรก จะไม่มีผงแป้ง หรือ แผ่นเกราะคลุมตัว ซึ่งในระยะนี้เท่านั้นที่ตัวอ่อนยังเคลื่อนไหว เพื่อหาแหล่งอาหาร เมื่อเคลื่อนย้ายไปได้แหล่งอาหารแล้ว ก็จะหยุดเคลื่อนย้าย อยู่นิ่งติดกับที่ และ ตัวอ่อนจะเจริญเติบโตต่อไป และ พัฒนามีผงแป้ง หรือแผ่นเกราะหุ้มตัว ดังนั้น นักวิชาการ จึงเรียกตัวอ่อนระยะที่ไม่มีผงแป้งหรือเกราะหุ้มตัวว่า crawlerนั้นเองซึ่งควรเร่งใช้ยาฆ่าเพลี้ยแป้ง เพื่อลดปริมาณของมันก่อนที่จะสายเกินไป
หากเราพบเพลี้ยหอย และเพลี้ยแป้งเบื้องต้น เป็นจำนวนน้อยเกาะอยู่ตามใบ หรือตัดแต่งส่วนกิ่งที่ทิ้งได้เพื่อกำจัดเผาทำลายทิ้ง เพื่อป้องกันการลุกลามไปยังส่วนอื่นๆของลำต้น และประสิทธิภาพในการกำจัดนั้นจะต้องมีการใช้สารป้องกันและกำจัดแมลง หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า ยาฆ่าเพลี้ยแป้ง และเพลี้ยหอย เพื่อลดความเสียหายควบคุมการระบาด การรู้จักเลือกใช้สารเคมีที่มีประสิทธิภาพ ใช้ให้ถูกที่ ถูกเวลา ก็สามารถลดความเสียหายจากการทำลายของเพลี้ยแป้ง เพลี้ยหอย ลงได้มากซึ่งทำได้โดยใช้ผลิตภัณฑ์ ทูแทค, โฟน่า, เมล่า สารกำจัดแมลงในกลุ่ม organophosphates ซึ่งเป็นสารที่มีประโยชน์ในการกำจัดเพลี้ยหลากหลายชนิด อีกทั้งยังด้วงบางจำพวกอีกด้วยร่วมกับ โซเทอรี่ สารออกฤทธิยับยั้งการลอกคราบของตัวอ่อน การเจริญเติบโตของแมลงปากดูด ตัวอย่าง : ใช้ทูแทค อัตรา 50 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร พ่นให้ทั่ว 7-14 วัน เมื่อเกิดการระบาด เพื่อไม่ให้พืชเกิดความเสียหายอย่างรุนแรงควรหมั่นตรวจสอบ ฉีดยาป้องกันสลับตัวยา เพื่อลดการดื้อยาของแมลงปากดูด เพลี้ยแป้ง เพลี้ยหอยลงได้มาก
จากที่กล่าวมาจะเห็นได้ว่าพวกเพลี้ยเหล่านี้นั้นต้องเร่งกำจัดฉีดยาฆ่าเพลี้ยแป้ง เพลี้ยหอย และ ที่สำคัญการฉีดพ่นต้องทั่วถึง มิเช่นนั้น หากมีเพลี้ยแป้งอยู่ใต้ใบ หรือ เกาะซ้อนกันแน่น ก็อาจทำให้ตัวล่างรอดและ ขยายพันธุ์ต่อไปได้ คงต้องอาศัยความพยายามในการกำจัดต้นเหตุ ตัดเนื้อร้าย และ ใช้สารเคมีควบคู่กันไป จึงจะกำราบเจ้าเพลี้ยตัวน้อยให้สิ้นฤทธิ์ลงได้หากสนใจในยาฆ่าเพลี้ยแป้ง ที่มีประสิทธิภาพนั้นเราขอแนะนำ บริษัท เคมแฟค จำกัด ยังมีการนำเข้าผลิตภัณฑ์เคมีเกษตร และ ยากำจัดแมลงศัตรูพืช อาทิ ยากำจัดเชื้อแบททีเรีย และ เชื้อโรคต่างๆในพืช อีกทั้งยังมี ยาฆ่าแมลง ยากำจัดเพลี้ย ยาฆ่าหนอน ยาฆ่าหญ้า และ ยาฆ่าหญ้าในนาข้าว ที่มีคุณภาพที่ผ่านมาตรฐาน ISO 9001 และ ISO/IEC 17025 รายแรกของไทย จึงมั่นใจได้ว่าผลิตภัณฑ์เคมีของเราสามารถป้องกันกำจัดแมลง โรคพืช วัชพืช ได้อย่างมีประสิทธิภาพอย่างแน่นอน
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
โรงงาน บริษัท เคมแฟค จำกัด
990 นิคมอุตสาหกรรมบางปู หมู่ 2
ต.บางปูใหม่ อ.เมืองสมุทรปราการ จ.สมุทรปราการ 10280
โทร. 02-709-2597-8 แฟกซ์: 02-709-6784
สำนักงาน บริษัท เคมเทรด จำกัด
68 ซ.เฉลิมพระเกียรติ ร.9 ซอย 34
แขวงหนองบอน เขตประเวศ กทม. 10250
โทร. 02-7267498-99 แฟกซ์: 02-709-6784